พ่อรวยสอนลูก หนังสือเพื่อความรู้
หลายคนในที่นี้คงจะเคยได้ยินหรือเคยอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า “พ่อรวยสอนลูก Rich Dad Poor Dad” กันมาบ้างแล้วใช่ไหมละครับ ซึ่งเป็นหนึ่งในหนังสือที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกมากที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีผู้อ่านจำนวนไม่น้อยที่ยกให้หนังสือเล่มนี้คือหนังสือเล่มโปรด ได้รับการตีพิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกเขียนโดย “Robert Kiyosaki (โรเบิร์ต คิโยซากิ)” ภายในหนังสือมีทั้งสอนทั้งแนะนำในหลายๆเรื่อง เกี่ยวกับการเงิน การลงทุนขั้นพื้นฐาน ต้องขอบอกเลยว่าใครที่อยากรวยหรือมีความสนใจด้านการลงทุน ไม่ควรจะพลาดด้วยประการทั้งปวง ซึ่งบทความนี้เราจะขอมารีวิวหนังสือ “พ่อรวยสอนลูก” เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่กำลังมีความตั้งใจอยากจะลองซื้อมาอ่าน ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ว่าแล้วตามไปชมกันเลย
หนังสือ “พ่อรวยสอนลูก Rich Dad Poor Dad” คือลำดับเล่มที่หนึ่งจากตระกูลพ่อรวยสอนลูก เพราะนอกจากเล่มนี้แล้ว ยังมีหนังสือพ่อรวยสอนลูกที่ขยายความในเรื่องอื่นๆออกไปอีกหลายเล่มด้วยกัน ถูกเขียนโดย “คุณ Robert Kiyosaki” พร้อมได้รับการเรียบเรียงจาก “คุณจักรพงษ์ เมษพันธุ์” เเละ “คุณธนพร ศิริอัครกรกุล” จัดจำหน่ายอยู่ที่ราคา 250 บาท มีจำนวนทั้งหมด 375 หน้า ในส่วนรายละเอียดของตัวหนังสือ นอกจากเนื้อหาที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหา คำแนะนำ แนวคิดแล้ว ก็ยังมีแบบฝึกหัดให้ตอบคำถามในทุกๆบทด้วย แถมแต่ละบทก็จะประกอบกับแผนภาพขยายเนื้อหาเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สำหรับเนื้อหาภายในเล่ม คุณโรเบิร์ตได้มีการเล่าเรื่องโดยหยิบยกเอาพ่อของนักเขียน (ซึ่งเป็นพ่อของเขาเอง) และพ่อของเพื่อนสนิทคนหนึ่งมาเล่า แน่นอนว่าทั้ง 2 ท่านมีความคิดทางด้านการเงินที่แตกต่างกัน จนส่งผลไปสู่ความมั่งคั่งที่ต่างกันด้วย จำนวน 375 หน้าของหนังสือ จะแบ่งเนื้อหาออกได้เป็น 9 บทด้วยกัน ดังนี้ บทที่ 1 คนรวยไม่ทำงานเพื่อเงิน ,บทที่ 2 ทำไมต้องมีความรู้ทางการเงิน , บทที่ 3 สร้างธุรกิจของตัวเอง , บทที่ 4 ภาษีและประโยชน์ของนิติบุคคล , บทที่ 5 คนรวยสร้างเงินได้เอง , บทที่ 6 ทำงานเพื่อเรียนรู้ อย่าทำงานเพื่อเงิน , บทที่ 7 ก้าวข้ามอุปสรรค , บทที่ 8 เริ่มต้นลงมือทำ , บทที่ 9 คำแนะนำเพิ่มเติม เมื่ออ่านจบเล่มจะเห็นได้ว่าตัวเนื้อหาจะพูดถึงเรื่องราว รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อรวยกับคุณโรเบิร์ตตลอดทั้งเล่ม ประกอบกับสอดแทรกแนวคิด ข้อสรุปในเเต่ละบทไป
สรุปได้ว่า แม้หนังสือเล่มนี้จะมีการสอนแนวคิด ให้มุมมองในเรื่องต่างๆเกี่ยวการลงทุน การจัดระเบียบ การวางระบบทางการเงิน แต่เมื่อพูดถึงแก่นแท้ที่สำคัญของเนื้อหาจริงๆแล้ว คงจะเป็นเรื่อง “ความมั่งคั่งทางการเงิน” ก็คือ การมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ถึงแม้มักต้องพบเจอกับความล้มเหลวในท้ายที่สุด แต่เมื่อเราทำธุรกิจเป็น มองเห็นโอกาส สุดท้ายผลมันจะลงเอยด้วยความมั่งคั่งที่ยั่งยืน รวมไปถึงกระแสเงินสด ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่าเราควรจะมีรายได้มากกว่ารายจ่ายในทุกเดือนทุกปี แล้วความมั่วคั่งทางการเงินจะบังเกิดแก่ตัวเราแน่นอน
ส่วนแก่นแท้อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ “ความแตกต่างของหนี้สิน และทรัพย์สิน” สามารถอธิบายได้ว่า หนี้สินนั้นมันคือสิ่งที่ทำให้เงินไหลออกจากกระเป๋า ส่วนทรัพย์สินมันก็คือ สิ่งที่ทำให้เงินไหลเข้ากระเป๋า ผู้คนต่างคิดว่าการที่เราซื้อสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะรถ บ้าน หรืออื่นๆ เราจะได้ครอบครองทรัพย์สิน แต่แท้จริงแล้วเปล่าเลย เรากำลังมีหนี้สินต่างหาก ดังนั้นตัวเนื้อหาได้ให้ข้อคิดว่า เราควรเพิ่มทรัพย์สินเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้เพียงพอ จนสามารถรักษาระดับการเงิน และนำไปสู่การครอบคลุมรายจ่ายให้ได้เสียก่อน จึงจะมีสิ่งของที่เป็นหนี้สินได้ ไม่ใช่ว่าซื้อบ้าน ซื้อสิ่งของเพื่อที่จะยกระดับชีวิตตัวเอง ทั้งที่รายได้ยังไม่เพียงพอหรือคงที่นั่นเอง